วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561

ประวัติส่วนตัวผู้จัดทำเว็บ


ข้อมูลประวัติ

ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อ ณัฐนันท์ สกุล บัวนุ่ม ชื่อเล่น เบียร์

ที่อยู่ 112/9 ถ.ชิดวนา ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก
เบอร์โทร 091-8437714 วัน เดือน ปี (เกิด) 1 มกราคม พ.ศ. 2540
เชื้อชาติ ไทย สัญชาติไทย ศาสนา พุทธ

ประวัติการศึกษา
อุนบาล-มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 3 จบจาก โรงเรียนเทศบาลวัดมณีไพรส์
มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 จบจาก โรงเรียนสรรพวิทยาคม
ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตเชียงใหม่ คณะ ศึกษาศาสตร์ สาขาวิชา พลศึกษา

อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ เรวัตร นาวาจักร

ครอบครัว
มีพี่น้อง 2 คน ตนเป็นคนที่ 2

สถานภาพครอบครัว บิดา-มารดา อยู่ด้วยกัน        



ประวัติกีฬาเซปักตะกร้อ


ประวัติและความเป็นมาของกีฬาเซปักตะกร้อ

ประวัติกีฬาตะกร้อต่างประเทศ กีฬาเซปักตะกร้อ

การแข่งขันตะกร้อตะกร้อ เป็นการละเล่นของไทยมาแต่โบราณ แต่ไม่มีหลักฐานแน่นอนว่ามีมาตั้งแต่สมัยใด แต่คาดว่าราว ๆ ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศอื่นที่ใกล้เคียงก็มีการเล่นตะกร้อ คนเล่นไม่จำกัดจำนวน เล่นเป็นหมู่หรือเดี่ยวก็ได้ ตามลานที่กว้างพอสมควร ตะกร้อที่ใช้เดิมใช่หวายถักเป็นลูกตะกร้อ ปัจจุบัน นิยมใช้ลูกตะกร้อพลาสติก

การเตะตะกร้อเป็นการเล่นที่ผู้เล่นได้ออก กำลังกายทุกสัดส่วน ฝึกความว่องไว ความสังเกต มีไหวพริบ ทำให้มีบุคลิกภาพดี มีความสง่างาม และการเล่นตะกร้อนับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของไทยอย่างหนึ่ง

ในการค้นคว้าหาหลักฐานเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดการกีฬาตะกร้อในอดีตนั้น ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้อย่างชัดเจนว่ากีฬาตะกร้อนั้นกำเนิดจากที่ใด จากการสันนิษฐานคงจะได้หลายเหตุผลดังนี้

ประเทศพม่า เมื่อประมาณ พ.ศ. 2310 พม่ามาตั้งค่ายอยู่ที่โพธิ์สามต้น ก็เลยเล่นกีฬาตะกร้อกัน ซึ่งทางพม่าเรียกว่า “ชิงลง” 

          ทางมาเลเซียก็ประกาศว่า ตะกร้อเป็นกีฬาของประเทศมาลายูเดิมเรียกว่า ซีปักรากา (Sepak Raga) คำว่า Raga หมายถึง ตะกร้า

         ทางฟิลิปปินส์ ก็นิยมเล่นกันมานานแล้วแต่เรียกว่า Sipak

         ทางประเทศจีนก็มีกีฬาที่คล้ายกีฬาตะกร้อแต่เป็นการเตะตะกร้อชนิดที่เป็นลูกหนังปักขนไก่ ซึ่งจะศึกษาจากภาพเขียนและพงศาวดารจีน ชาวจีนกวางตุ้งที่เดินทางไปตั้งรกรากในอเมริกาได้นำการเล่นตะกร้อขนไก่นี้ไปเผยแพร่ แต่เรียกว่าเตกโก (Tek K’au) ซึ่งหมายถึงการเตะลูกขนไก่

         ประเทศเกาหลี ก็มีลักษณะคล้ายกับของจีน แต่ลักษณะของลูกตะกร้อแตกต่างไป คือใช้ดินเหนียวห่อด้วยผ้าสำลีเอาหางไก่ฟ้าปัก
         ประกาศไทยก็นิยมเล่นกีฬาตะกร้อมายาวนาน และประยุกต์จนเข้ากับประเพณีของชนชาติไทยอย่างกลมกลืนและสวยงามทั้งด้านทักษะและความคิด


ประวัติกีฬาตะกร้อในประเทศไทย


   ในสมัยโบราณนั้นประเทศไทยเรามีกฎหมายและวิธีการลงโทษผู้กระทำความผิด โดยการนำเอานักโทษใส่ลงไปในสิ่งกลมๆที่สานด้วยหวายให้ช้างเตะ แต่สิ่งที่ช่วยสนับสนุนประวัติของตะกร้อได้ดี คือ ในพระราชนิพนธ์เรื่องอิเหนาของรัชกาลที่ 2 ในเรื่องมีบางตอนที่กล่าวถึงการเล่นตะกร้อ และที่ระเบียงพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งเขียนเรื่องรามเกียรติ์ ก็มีภาพการเล่นตะกร้อแสดงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้รับรู้

โดยภูมิศาสตร์ของไทยเองก็ส่งเสริมสนับสนุนให้เราได้ทราบประวัติของตะกร้อ คือประเทศของเราอุดมไปด้วยไม้ไผ่ หวายคนไทยนิยมนำเอาหวายมาสานเป็นสิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงการละเล่นพื้นบ้านด้วย อีกทั้งประเภทของกีฬาตะกร้อในประเทศไทยก็มีหลายประเภท เช่น ตะกร้อวง ตะกร้อลอดห่วง ตะกร้อชิงธงและการแสดงตะกร้อพลิกแพลงต่างๆ ซึ่งการเล่นตะกร้อของประเทศอื่นๆนั้นมีการเล่นไม่หลายแบบหลายวิธีเช่นของไทยเรา การเล่นตะกร้อมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องมาตามลำดับทั้งด้านรูปแบบและวัตถุดิบในการทำจากสมัยแรกเป็นผ้า , หนังสัตว์ , หวาย , จนถึงประเภทสังเคราะห์ ( พลาสติก )

ความหมาย คำว่าตะกร้อ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ . ศ . 2525 ได้ให้คำจำกัดความเอาไว้ว่า ” ลูกกลมสานด้วยหวายเป็นตา สำหรับเตะ “


วิวัฒนาการการเล่นกีฬาตะกร้อ

    การเล่นตะกร้อได้มีวิวัฒนาการในการเล่นมาอย่างต่อเนื่อง ในสมัยแรกๆ ก็เป็นเพียงการช่วยกันเตะลูกไม่ให้ตกถึงพื้นต่อมาเมื่อเกิดความชำนาญและหลีกหนีความจำเจ ก็คงมีการเริ่มเล่นด้วยศีรษะ เข่า ศอก ไหล่ มีการจัดเพิ่มท่าให้ยากและสวยงามขึ้นตามลำดับ จากนั้นก็ตกลงวางกติกาการเล่นโดยเอื้ออำนวยต่อผู้เล่นเป็นส่วนรวม อาจแตกต่างไปตามสภาพภูมิประเทศของแต่ละพื้นที่ แต่คงมีความใกล้เคียงกันมากพอสมควร


ตะกร้อนั้นมีมากมายหลายประเภท เช่น

- ตะกร้อข้ามตาข่าย – ตะกร้อลอดบ่วง – ตะกร้อพลิกแพลงเป็นต้น

เมื่อมีการวางกติกาและท่าทางในการเล่นอย่างลงตัวแล้วก็เริ่มมีการแข่งขันกันเกิดขึ้นในประเทศไทยตาม
ประวัติของการกีฬาตะกร้อตั้งแต่อดีตที่ได้บันทึกไว้ดังนี้

พ.ศ. 2472 กีฬาตะกร้อเริ่มมีการแข่งขันครั้งแรกภายในสมาคมกีฬาสยาม

พ.ศ. 2476 สมาคมกีฬาสยามประชุมจัดร่างกติกาในการแข่งขันกีฬาตะกร้อข้ามตาข่ายและเปิดให้มีการแข่งขันในประเภทประชาชนขึ้นเป็นครั้งแรก

พ.ศ. 2479 ทางการศึกษาได้มีการเผยแพร่จัดฝึกทักษะในโรงเรียนมัธยมชายและเปิดให้มีแข่งขันด้วย

พ.ศ. 2480 ได้มีการประชุมจัดทำแก้ไขร่างกฎระเบียบให้สมบูรณ์ขึ้น โดยอยู่ในความควบคุมดูแลของ เจ้าพระยาจินดารักษ์ และกรมพลศึกษาก็ได้ออกประกาศรับรองอย่างเป็นทางการ

พ.ศ. 2502 มีการจัดการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 1 ขึ้นที่กรุงเทพฯ มีการเชิญนักตะกร้อชาวพม่ามาแสดงความสามารถในการเล่นตะกร้อพลิกแพลง

พ.ศ. 2504 กีฬาแหลมทองครั้งที่ 2 ประเทศพม่าได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขัน นักตะกร้อของไทยก็ได้ไปร่วมแสดงโชว์การเตะตะกร้อแบบพลิกแพลงด้วย

พ.ศ. 2508 กีฬาแหลมทองครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ได้มีการบรรจุการเตะตะกร้อ 3 ประเภท เข้าไว้ในการแข่งขันด้วยก็คือ

- ตะกร้อวง – ตะกร้อข้ามตาข่าย – ตะกร้อลอดบ่วง

อีกทั้งมีการจัดประชุมวางแนวทางด้านกติกาทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อสะดวกในการเล่นและการเข้าใจของผู้ชมในส่วนรวมอีกด้วย

พอเสร็จสิ้นกีฬาแหลมทองครั้งที่ 3 กีฬาตะกร้อได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอันมาก บทบาทของประเทศมาเลเซียก็เริ่มมีมากขึ้น จากการได้เข้าร่วมในการประชุมตั้งกฎกติกากีฬาตะกร้อประเภทข้ามตาข่าย หรือที่เรียกว่า ” เซปักตะกร้อ ” และส่งผลให้กีฬาตะกร้อข้ามตาข่าย ได้รับการบรรจุเข้าในการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 จนถึงปัจจุบัน

วีดีโอประวัติของกีฬาเซปักตะกร้อ


คุณสมบัติของผู้ตัดสินกีฬาเซปักตะกร้อ

คุณสมบัติของผู้ตัดสินกีฬาเซปักตะกร้อ

1. บุคลิกดี แต่งกายดี เป็นที่นับถือของผู้พบเห็น
 2. ตรงต่อเวลา
 3. ร่างกายแข็งแรงและมีความพร้อมอยู่เสมอ 
 4. รอบรู้ เข้าใจในกติกาการแข่งขันเป็นอย่างดี 
 5. สายตาดี มีการสังเกต และมีศิลปะของการเป็นผู้ตัดสินกีฬา 
   “แม่นกติกา สายตาดี มีความยุติธรรม นำศิลปะมาใช้ในการตัดสิน”
 6. มีจิตวิทยา มีความเข้าใจธรรมชาติของผู้เล่น และมีความยืดหยุ่น เมื่อไรควรเอาจริง 
 เข้มงวด อดกลั้น เพิกเฉย หรือมองข้ามการกระทำบางอย่าง 
 7. หมั่นหาประสบการณ์ ดูการแข่งขัน วิธีการเล่นของทีม และผู้เล่นแต่ละคน 
 (ดูเทคนิคและแทคติก) 
 8. อารมณ์มั่นคง อดทน อดกลั้น มีสมาธิ ควบคุมสติตนเองได้ทุกสถานการณ์ 
 9. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ใช้คำพูดเหมาะสม สุภาพอ่อนโยน 
 10. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น 
 11. หมั่นศึกษากติกาและติดตามการเคลื่อนไหวของวงการกีฬาเซปักตะกร้อทั้งในประเทศ 
 และต่างประเทศ 
 12. เข้าร่วมสัมมนาผู้ตัดสินกีฬาทุกครั้ง 
 13. มีความยุติธรรม 
 14. มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความกล้าหาญ มีการตัดสินใจที่ดี และสามารถแก้ปัญหา 
 เฉพาะหน้าได้ทุกสถานการณ์ 
   “ผู้ตัดสินกีฬาย่อมไม่โง่”
 15. อุปกรณ์การตัดสินต้องใช้ชนิดที่ดีมีประสิทธิภาพ ได้แก่ นกหวีด และนาฬิกาจับเวลา 
 16. มีความรู้ความสามารถในการทำใบบันทึกคะแนน 
 17. สังเกตความแตกต่างชนิดของแบบฟอร์มในระหว่างการแข่งขัน 
 18. ยอมรับการวิเคราะห์ ติชม ในการตัดสินของตนเองจากกรรมการเทคนิค 
 หรือประธานผู้ตัดสิน และนำไปแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น 


จรรยาบรรณของผู้ตัดสิน กีฬาเซปักตะกร้อ


1. รักและศรัทธาในสถาบันผู้ตัดสินกีฬา ถือว่าเป็นสถาบันทรงเกียรติ
 2. ตั้งใจจริงที่จะเข้ามาเป็นผู้ตัดสินกีฬา
 3. อุทิศตนเพื่อเสริมสร้างเกียรติภูมิแก่สถาบันผู้ตัดสินกีฬา 
 4. ไม่กระทำการใดที่เป็นการลบหลู่และทำลายสถาบันผู้ตัดสินกีฬา 
 5. ประพฤติปฏิบัติตามกระบวนการและระเบียบแบบแผนของการเป็นผู้ตัดสินกีฬา 
 6. ศึกษา ใฝ่หาความรู้ เพื่อพัฒนาความสามารถในการตัดสินกีฬาเป็นนิจ 
 7. แสดงความรับผิดชอบเมื่อได้รับมอบหมายให้ตัดสินกีฬา 
 8. มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ 
 9. รู้จักการวางตัว การแต่งกาย มีท่วงที กิริยาวาจาเหมาะสมกับกาลเทศะ 
 10. แสดงคารวะธรรมต่อผู้มีพระคุณที่ให้การอบรมสั่งสอน ประธานผู้ตัดสิน และผู้ตัดสินรุ่นพี่ 
 11. ไม่เสพเครื่องมึนเมา สารกระตุ้น หรือสูบบุหรี่ก่อนปฏิบัติหน้าที่ 
 12. สร้างความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจก่อนปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง 
 13. มีความซื่อสัตย์สุจริตในขณะปฏิบัติหน้าที่ตัดสินกีฬา 
 14. ให้ความยุติธรรมแก่นักกีฬาทั้งสองฝ่าย 
 15. ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลใดๆ ในขณะตัดสินกีฬา 
 16. ไม่แสดงความท้อแท้ในสถานการณ์ที่กดดัน ควบคุมอารมณ์ได้ 
 17. แสดงความเชื่อมั่นตนเอง กล้าตัดสินใจเฉียบพลัน 
 18. แสดงออกและสร้างสรรค์ความมีน้ำใจนักกีฬาแก่นักกีฬา 
 19. ไม่ให้ข่าวเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่การตัดสินกีฬาของตน 
 20. ไม่วิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินคนอื่น 

กรรมการผู้ชี้ขาด  (Official Referee)

ผู้ที่ทำหน้าที่ตัดสินปัญหาใดๆ อันเป็นข้อขัดแย้งของนักกีฬาหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยอาศัย
ตามข้อกำหนดของกติกาการแข่งขัน และหากไม่มีระบุไว้ในกติกาการแข่งขันก็สามารถใช้ดุลยพินิจ
ของตนเองแก้ไขปัญหาดังกล่าว และถือเป็นที่สิ้นสุด 
 
หน้าที่และความรับผิดชอบของกรรมการผู้ชี้ขาดกีฬาเซปักตะกร้อ
(Official Referee’s Duties and Responsibilities) 
 • ควบคุมการดำเนินการจัดการแข่งขันให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกติกาการแข่งขัน
ด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม 
 • จัดผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน และผู้ตัดสินกำกับเส้น ในการปฏิบัติหน้าที่แต่ละครั้ง 
หรือแต่ละคู่ 
 • สำรวจความพร้อมของอุปกรณ์เทคนิคต่างๆ 
 • ประชุม แนะนำ ให้ข้อคิด และอื่นๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน 
ผู้ตัดสินกำกับเส้น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 
 • หยุดเกมการแข่งขัน เมื่อมีเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขัน 
จนไม่สามารถดำเนินการแข่งขันต่อไปได้ 
 • แก้ไขปัญหาต่างๆ โดยอาศัยตามข้อกำหนด กติกาการแข่งขัน ระเบียบการแข่งขัน 
และใช้ดุลยพินิจของตนเองด้วยความเป็นธรรม 
 • บันทึกหลักฐานและจัดเก็บเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ 
 • สรุปผลการแข่งขันและเสนอรายงานต่อประธานกรรมการจัดการแข่งขัน 


ผู้ตัดสินกีฬา (Match Referee) 


หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ตัดสินกีฬาเซปักตะกร้อ  (Match Referee’s Duties and Responsibilities) 1. สำรวจความพร้อมของเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การตัดสินก่อนมาปฏิบัติหน้าที่
 2. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความหนักแน่น ยุติธรรม โดยยึด 
 • กติกาการแข่งขัน 
 • ระเบียบการแข่งขัน 
 • แนวปฏิบัติและขั้นตอนการตัดสิน 
 3. รายงานตัวต่อหัวหน้าผู้ตัดสิน ณ สนามแข่งขัน ก่อนเวลาแข่งขัน 60 นาที 
 4. ตรวจสภาพตาข่าย ตะกร้อ และสนามแข่งขัน ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ในการแข่งขัน 
 5. รอรับมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่จากหัวหน้าผู้ตัดสิน 
 6. ปฏิบัติหน้าที่ในการเสี่ยง เพื่อตัดสินว่าทีมใดเป็นฝ่ายเสิร์ฟ ทีมใดเป็นฝ่ายเลือกแดน 
โดยนำลูกตะกร้อ 2 ลูก และใบบันทึกคะแนนลงไปด้วย 
 7. ควบคุมการวอร์มของนักกีฬา โดยให้ทีมที่ชนะการเสี่ยงเป็นทีมวอร์มก่อน 
 8. ประกาศชื่อเกมการแข่งขัน และหมายเลขทั้งสองทีมในการแข่งขัน (ประเภททีมชุด) 
สำหรับประเภททีมเดี่ยวไม่ต้องประกาศหมายเลขผู้เล่นอีก 
 9. ประกาศผลการเสี่ยง บอกชื่อทีมที่เป็นฝ่ายเสิร์ฟก่อน 
 10. ประกาศเตือนนักกีฬาให้พร้อม และเริ่มการแข่งขัน 
 11. ควบคุมการแข่งขันให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย จนสิ้นสุดการแข่งขัน 
 12. ในระหว่างการแข่งขัน ให้ประกาศสั้นๆ เสียงดังด้วยคำต่างๆ ดังนี้ 
 หยุด (STOP) อีกแต้มเดียวเกม (GAME POINT/MATCH POINT) 
 ผู้ตัดสินกำกับเส้น (LINE REFEREE) ชนะ (WIN) 
 ผู้ช่วยผู้ตัดสิน (ASSISTANT REFEREE) เซ็ทที่ 1 (FIRST SET) 
 ส่งลูก (SERVE) เซ็ทที่ 2 (SECOND SET) 
 ตาข่าย (NET) เซ็ทไทเบรก (TIE BREAK SET) 
 เสีย (FAULT) ส่งใหม่ (LET) 
 ออก (OUT) เปลี่ยนแดน (CHANGE SIDE) 
 ดี (IN) เวลานอก (TIMEOUT) 
 ได้แต้ม (POINT) ดิวส์คู่ไม่เกิน 17 คะแนน (SETTING UP TO 17 POINTS) 
 13. ประกาศขานแต้มก่อนเสิร์ฟทุกครั้ง 
 14. ประกาศขอเวลานอกในแต่ละเซ็ทที่ทีมขอเวลานอก 
 15. ประกาศเมื่อมีการเปลี่ยนตัวนักกีฬา 
 16. ประกาศสรุปผลเมื่อสิ้นสุดการแข่งขันในคู่ที่ตัดสิน และให้นักกีฬาสัมผัสมือ 


ผู้ช่วยผู้ตัดสินกีฬา  (Assistant Referee)

หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ช่วยผู้ตัดสินกีฬาเซปักตะกร้อ (Assistant Referee’s Duties and Responsibilities) 
 1. สำรวจความพร้อมของเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การตัดสินก่อนมาปฏิบัติหน้าที่
 2. รายงานตัวต่อหัวหน้าผู้ตัดสิน ณ สนามแข่งขัน ก่อนเวลาแข่งขัน 60 นาที 
 3. รอรับมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่จากหัวหน้าผู้ตัดสิน 
 4. นำผู้ตัดสินกำกับเส้นลงสนาม (ตามลักษณะของสนาม) เมื่อทีมที่สองทำการวอร์มได้
ประมาณ 1 นาที 
 5. ขณะปฏิบัติหน้าที่ ควรยืนในลักษณะที่เข้มแข็งและเตรียมพร้อม 
 6. ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ตัดสินในบริเวณเส้นกลางตาข่าย โดยให้สัญญาณมือ ดังนี้ 
 • ล้ำเส้นกลาง ใช้มือข้างใดข้างหนึ่งชี้ไปที่เส้นกลาง มืออีกข้างหนึ่งชี้ไปทางด้าน 
ฝ่ายได้เสิร์ฟ 
 • ถูกตาข่าย ใช้มือข้างใดข้างหนึ่งชี้ไปที่ตาข่าย มืออีกข้างหนึ่งชี้ไปทางด้าน 
ฝ่ายได้เสิร์ฟ 
 7. ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ตัดสินเกี่ยวกับการทำผิดกติกาของผู้เล่น โดยเฉพาะจุดบอด 
ที่ผู้ตัดสินมองไม่เห็น 
 • ลูกอ้อม ใช้มือทั้งสองข้างมาแตะประสานเหนือศีรษะ 
 • ลูกถูกแขน ให้ยกมือข้างใดข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งแตะที่แขน แล้วจึงให้
สัญญาณมือไปยังแดนเสิร์ฟ 
 • ลูกออก ให้ผายมือทั้งสองข้างออกไปข้างลำตัว 
 • ลูกดี ให้ชี้มือข้างใดข้างหนึ่งลงไปในแดนที่ลูกดี มืออีกข้างหนึ่งชี้ไปทาง 
ด้านฝ่ายได้เสิร์ฟ 
 • ผู้เล่น เล่นลูกเกิน 3 ครั้ง ให้ชูมือแสดงนิ้ว 4 นิ้ว เหนือศีรษะ 
 8. ขณะปฏิบัติหน้าที่ควรให้สัมพันธ์กับผู้ตัดสินในการให้สัญญาณเมื่อถูกถาม 
 9. เก็บลูกตะกร้อเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน นำผู้ตัดสินกำกับเส้นออกจากสนามตามผู้ตัดสิน 
 10. นำลูกตะกร้อไปวางที่โต๊ะกรรมการจัดการแข่งขัน 
 11. พักผ่อนในที่ที่กรรมการจัดการแข่งขันจัดไว้ให้ 


กรรมการประจำสนาม (Court Referee) 




หน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ประจำสนามกีฬาเซปักตะกร้อ
(Court Referee’s Duties and Responsibilities) 
 1. สำรวจความพร้อมของเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์การตัดสินก่อนมาปฏิบัติหน้าที่ 
 2. รายงานตัวต่อหัวหน้าผู้ตัดสิน ณ สนามแข่งขัน ก่อนเวลาแข่งขัน 60 นาที 
 3. ตรวจสอบความพร้อมของสนามก่อนการแข่งขัน 
 4. นำนักกีฬาลงสนาม พร้อมด้วยเหรียญสำหรับเสี่ยง แผ่นรองใบบันทึกคะแนน 
 และลูกตะกร้อ จำนวน 2 ลูก 
 5. เป็นผู้ทำการเสี่ยง เพื่อได้ทีมที่เลือกเสิร์ฟหรือเลือกแดน 
 6. ควบคุมการอบอุ่นร่างกายให้สอดคล้องกับกติกาและระเบียบการแข่งขัน 
 (ทีมที่ชนะตามข้อ 3 ได้สิทธิ์อบอุ่นร่างกายก่อน ในเวลา 2 นาที หลังจากนั้น 
 ตามด้วยอีกทีม อนุญาตให้ 5 คน อยู่ในสนามขณะอบอุ่นร่างกาย) 
 7. จดบันทึกในขณะที่กำลังทำการแข่งขัน และทำใบบันทึกคะแนน 
 8. ควบคุม ดูแลในระหว่างเวลานอกและหยุดพักระหว่างการแข่งขัน 
 9. ตรวจและอนุญาตในกรณีการเปลี่ยนตัวนักกีฬา 
 10. ควบคุมสถานการณ์ ในกรณีมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หรือการบาดเจ็บอย่างแรงของนักกีฬา 
 11. ให้คำแนะนำ ดูแล การแข่งขันให้เป็นไปตามกติกาและระเบียบการแข่งขัน 
 (ตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดการแข่งขัน) 
 12. จัดทำสรุปผลการแข่งขันในใบบันทึกคะแนน ก่อนส่งให้หัวหน้าผู้ตัดสิน 
 13. เข้าพักผ่อนในที่ที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันจัดให้ 


ผู้ตัดสินกำกับเส้น (Line Referee) 



หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ตัดสินกำกับเส้นกีฬาเซปักตะกร้อ
(Line Referee’s Duties and Responsibilities) 
 1. สำรวจความพร้อมของเครื่องแต่งกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ 
 2. รายงานตัวต่อหัวหน้าผู้ตัดสินกำกับเส้น ก่อนการแข่งขัน 60 นาที 
 3. การลงสนาม 
 • เดินตามผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ยืนด้านขวามือของเก้าอี้ผู้ตัดสิน หรือคณะผู้ตัดสิน 
 • หลังจากผู้ประกาศประจำสนามประกาศรายชื่อคณะกรรมการผู้ตัดสินแล้ว 
 ให้ไปประจำตำแหน่งทางขวามือของผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสิน 
 • เวลาลงสนาม เดินตามผู้ช่วยผู้ตัดสินไปประจำตำแหน่ง โดยยืนรอจนกว่าผู้ตัดสิน 
 จะขึ้นนั่งบนเก้าอี้ จึงจะนั่งลงได้ 
 4. มีความรู้เกี่ยวกับหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ตัดสินกำกับเส้น 
 5. ปฏิบัติหน้าที่อย่างตั้งใจและเคร่งครัด 
 6. รักษาหน้าที่อย่างตั้งใจและเคร่งครัด 
 7. แต่งกายสุภาพเรียบร้อยเหมาะสม 
 8. ไม่สูบบุหรี่ รับประทานอาหาร ดื่มน้ำ พูด เชียร์ หรือโห่ฝ่ายใด 
 9. การให้สัญญาณมือ ขณะปฏิบัติหน้าที่ควรทำด้วยความมั่นใจ และให้สัญญาณมือ 
 เมื่อผู้ตัดสินถามเท่านั้น โดยให้สัญญาณมือ ดังนี้ 
 • ลูกดี ให้ชี้มือข้างหนึ่งลงไปในสนาม 
 • ลูกออก ให้งอแขนทั้งสองข้างหันฝ่ามือเข้าและขนานกับลำตัว 
 10. ขณะแข่งขัน นักกีฬาไล่เล่นลูกใกล้ตัวผู้ตัดสินกำกับเส้น ให้ผู้ตัดสินกำกับเส้นเคลื่อนที่ 
 โดยไม่กีดขวางการเล่นของนักกีฬา 
 11. เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นลง ให้เดินเข้าไปยืนข้างหน้าผู้ตัดสินหรือผู้ช่วยผู้ตัดสิน 
 เพื่อรับการเคารพจากนักกีฬา และออกจากสนามโดยมีผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสินนำออก 
 12. เข้าพักผ่อนในที่ที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันจัดให้


เจ้าหน้าที่ผู้ประกาศการแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ



เจ้าหน้าที่ผู้ประกาศการแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ เป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคการแข่งขันฝ่ายหนึ่ง 
ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นต้องมีในการแข่งขันแต่ละครั้ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ประกาศ 
และประชาสัมพันธ์การแข่งขันให้ดำเนินไปอย่างเรียบร้อย การประกาศในการจัดการแข่งขันกีฬา 
เซปักตะกร้อ มีดังนี้ 


                                  ขั้นตอนการประกาศของผู้ประกาศ



                                          ประเภททีมเดี่ยว

 สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ ท่านผู้ชมทุกท่าน การแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ.............................
ประจำวันที่……เดือน………พ.ศ.……ประกาศตารางการแข่งขันประจำวันให้ผู้ชมทราบ “ตารางการแข่งขัน
กีฬาเซปักตะกร้อประจำวันที่……เดือน…………พ.ศ.……… เป็นการแข่งขันประเภท ทีมเดี่ยว 
รอบ……… เริ่มทำการแข่งขันคู่แรก ในเวลา………น. ประกาศทีมแข่งขันตามตารางการแข่งขัน” 
 ขั้นตอนการประกาศในสนามแข่งขัน 
 1. ในสนามที่……ต่อไปเป็นการแข่งขันกีฬาเซปักตะกร้อ………………………ประเภททีมเดี่ยว
ระหว่าง ทีม………...…….……กับทีม………......………….(คณะผู้ตัดสินนำนักกีฬาทั้งสองทีมลงสนาม) 
 2. หลังจากคณะผู้ตัดสินนำนักกีฬาทั้งสองทีมลงสนาม โดยนักกีฬายืนที่เส้นหลัง 
คณะผู้ตัดสินยืนด้านขวามือของเก้าอี้ผู้ตัดสิน 
 3. หลังจากนักกีฬาทีมที่ 2 สิ้นสุดการอบอุ่นร่างกาย นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมทั้งสอง
ยืนที่เส้นหลัง คณะผู้ตัดสินยืนด้านขวามือของเก้าอี้ผู้ตัดสิน จึงประกาศ ในสนามที่............ 
ต่อไปเป็นการแข่งขันระหว่างทีม...................กับทีม.....................และประกาศรายชื่อนักกีฬาและ
เจ้าหน้าที่ทีมทั้งสองทีม และรายชื่อคณะผู้ตัดสิน (โดยเรียงลำดับจาก ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน 
ผู้ตัดสินกำกับเส้น 2 คน และกรรมการประจำสนาม) 
หมายเหตุ
การประกาศชื่อ ถ้าเป็นพลเรือนไม่ต้องประกาศคำนำหน้าชื่อ ถ้าเป็นทหาร ตำรวจ 
ควรประกาศยศด้วย การประกาศรายชื่อนักกีฬาและเจ้าหน้าทีม ผู้ประกาศต้องตรวจสอบรายชื่อ 
ให้ถูกต้องก่อนเพื่อป้องกันการประกาศผิด 
 4. ภายหลังจากการแข่งขันในแต่ละคู่เสร็จสิ้นลง ให้ประกาศสรุปผลการแข่งขัน 
 “สรุปผลการแข่งขันในสนามที่.....ทีม..........ชนะทีม........ 2 : 0 เซ็ท หรือ 2 : 1 เซ็ท” 
เมื่อการแข่งขันคู่สุดท้ายเสร็จสิ้นลง ควรประกาศตารางการแข่งขันประจำวันต่อไป ให้ผู้ชมทราบ

วีดีโอการเป็นผู้ตัดสินกีฬาเซปักตะกร้อ


พื้นฐานการเดาะตะกร้อ

พื้นฐานการเดาะตะกร้อ

 ขั้นตอนการฝึกการเล่นตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน
1. ผู้เล่นเตรียมรับลูกที่ลอยมา โดยยืนทรงตัวแยกขาทั้งสองข้างย่อตัวลงเล็กน้อยตามองตรงไปยังลูกตะกร้อ ยกเท้าที่จะเตะให้ข้างเท้าด้านในขนานกับพื้นแล้วเตะลูกเป็นแนวตรงและเอนตัว ไปด้านหลัง (ดังรูปที่ 1 – 2) 
  

2. เมื่อลูกที่เตะลอยขึ้น ผู้เล่นย่อเข่าข้างที่ไม่ได้เตะ ให้เท้าที่จะใช้เตะอยู่ด้านหลังเหวี่ยงเท้าข้างที่จะเตะสัมผัสลูกด้วข้าง เท้าด้านในเพื่อส่งลูกไปตามทิศทางที่ต้องการ 
001
การเดาะตะกร้อด้วยหลังเท้า
หมายถึง การเตะตะกร้อด้วยหลังเท้า เบาๆ ซ้ำกันหลายๆครั้ง เป็นการเตะเพื่อบังคับลูกให้อยู่ใกล้ตัวในระดับสูงเกินสะเอว หลักการฝึกเช่นเดียวกับการเตะตะกร้อด้วยหลังเท้า แต่มีข้อแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ซึ่งมีหลักการเตะตะกร้อด้วยหลังเท้า ดังนี้
1. การเดาะลูกด้วยหลังเท้า ปลายเท้าที่เดาะลูกจะกระดกขึ้น และลูกตะกร้อจะถูกหลังเท้าค่อนไปทางปลายเท้าบริเวณโคนนิ้วเท้าทั้งห้า ใช้ปลายเท้าตวัดลูกตะกร้อให้ลอยขึ้นมาตรง ๆ
2. ยกเท้าที่เดาะลูกให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้
3. ขณะที่เดาะลูกควรก้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย
4. ควรฝึกเดาะลูกตะกร้อด้วยหลังเท้าให้ได้ทั้งสอง

02
การเดาะตะกร้อด้วยเข่า
ยืนในท่าเตรียมพร้อม มือถือลูกตะกร้อโยนแล้วเดาะด้วยเข่าข้างถนัดต่อเนื่องกันจนกว่าลูกตะกร้อจะ ตกพื้น แล้วหยิบลูกตะกร้อขึ้นมาเดาะใหม่ ปฏิบัติเหมือนเดิมหลาย ๆ ครั้ง เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า การเดาะด้วยเข่าข้างที่ถนัดดีแล้ว ให้เปลี่ยนเดาะด้วยเข่าข้างที่ไม่ถนัดบ้าง หรืออาจจะสลับการเดาะด้วยเข่าทั้งสองข้างก็ได้

04

การเล่นตะกร้อด้วยศีรษะ
เป็นทักษะพื้นฐานที่มีความสำคัญสำหรับการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อเป็นอย่างมาก นิยมใช้ในการเปิดลูกเสิร์ฟ การรุกด้วยศีรษะ ( การเขก ) การรับ การส่ง การชงลูก หรือการตั้งลูกตะกร้อ และการสกัดกั้นหรือการบล็อกลูกจากการรุกของฝ่ายตรงข้าม ผู้เล่นจะต้องฝึกหัดการเล่นตะกร้อด้วยศีรษะได้หลาย ๆ ลักษณะ โดยเฉพาะผู้เล่นตำแหน่งหน้าซ้ายและหน้าขวา จะต้องเล่นตะกร้อด้วยศีรษะได้เป็นอย่างดี

วีดีโอพื้นฐานการเตะลูกตะกร้อ


กติการและการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ

ติกาเซปักตะกร้อ
( SEP AKTAKRAN RULES & REGULATIONS )

ข้อที่ 1. สนามแข่งขัน ( THE COURT )
1.1 พื้นที่ของสนามมีความยาว 13.40 เมตร และกว้าง 6.10 เมตร จะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ เมื่อวัดจากพื้นสนามสูงขึ้นไป 8 เมตร (พื้นสนามไม่ควรเป็นสนามหญ้าหรือสนามทราย )
1.2 เส้นสนาม ขนาดของเส้นสนามทุกเส้นที่เป็นขอบเขตของสนามต้องไม่กว้างกว่า 4 เซนติเมตร ให้ตีเส้นจากกรอบนอกเข้ามาในสนามและถือเป็นส่วนของพื้นที่สนามแข่งด้วย เส้นเขตสนามทุกเส้นต้องห่างจากสิ่งกีดขวางอย่างน้อย 3 เมตร
1.3 เส้นกลาง มีขนาดกว้างของเส้น 2 เซนติเมตร โดยจะแบ่งพื้นที่ของสนามออกเป็นด้านซ้ายและด้านขวาเท่าๆกัน
1.4 เส้นเสี้ยววงกลม ที่มุมสนามของแต่ละด้านตรงเส้นกลางให้จุดศูนย์กลางอยู่ที่กึ่งกลางของเส้นกลางตัดกับขอบด้านในของเส้นข้างเขียนเส้นเสี้ยววงกลมทั้งสอง ด้านรัศมี 90 เมตร ให้ตีเส้นขนาดความกว้าง  4 เซนติเมตร นอกเขตรัศมี 90 เซนติเมตร
1.4 เส้นเสี้ยววงกลม ที่มุมของสนามของแต่ละด้านตรงเส้นกลางให้จุดศูนย์กลางอยู่ที่ก่งกลางของเส้นกลางตัดกับขอบด้านในของเส้นข้าง เขียนเส้นเสี้ยววงกลมทั้งสองด้านรัศมี 90 เซนติเมตร ให้ตีเส้นนขนาดความกว้าง 4 เซนติเมตร นอกรัศมี 90 เซนติเมตร
1.5 วงกลมเสิร์ฟ ให้รัศมี 30 เซนติเมตร โดยวัดจากจุดกงกลางของเส้นหลังไปในสนาม 2.45 เมตร และวัดจากขอบด้านนอกของเส้นข้างไปในสนาม 3.05 เมตร  แ ละวัดจากขอบด้านนอกของเส้นข้างเข้าไปในสนาม 3.05 เมตร ใช้ตรงจุดตัดจากเส้นหลังและเส้นข้างเป็นจุดศูนย์กลาง ให้เขียนเส้นวงกลมขนาดความกว้าง 4 เซนติเมตร นอกเขตรัศมี 30 เซนติเมตร ( ดูรูปขนาดสนามจากภาคผนวก )
ข้อที่ 2. เสา ( THE POSTS )
2.1 เสามีความสูง 1.55 เมตร ( ผู้หญิง 1.45 เมตร ) ตั้งอยู่อย่างมั่นคงพอที่จะทำให้ตาข่ายตึง โดยต้องทำจากวัสดุที่มีความแข็งแกร่งและมีรัศมีไม่เกิน 4 เซนติเมตร
2.2 ตำแหน่งของเสา ให้ตั้งหรือวางไว้อย่างมั่นคงนอกสนามตรงกับแนวเส้นกลาง  ห่างจากเส้นข้าง 30 เซนติเมตร
ข้อที่ 3. ตาข่าย ( THE NET )
3.1  ตาข่ายให้ทำด้วยเชือกอย่างดีหรือไนล่อน  มีรูตาข่ายกว้าง 6 – 8 เซนติเมตร ความกว้างของผืนตาข่าย 70 เซนติเมตร และความยาวไม่น้อยกว่า 6.10 เมตร ให้มีวัสดุที่ทำเป็นแถบ ขนาดความกว้าง 5 เซนติเมตร ตรงด้านข้างของตาข่ายทั้งสองด้านจากด้านบนถึงด้านล่างตรงกับแนวเส้นข้างซึ่งเรียกว่า “แถบแสดงเขตสนาม”
3.2 ตาข่ายให้มีขนาดความกว้าง 5 ซนติเมตร ทั้งด้านบนและด้านล่าง โดยมีเชือกธรรมดาหรือเชือก      ไนล่อนอย่างดี ร้อยผ่านแถบและขึงตาข่ายให้ตึงเสมอระดับหัวเสา ความสูงของตาข่ายโดยวัดจากพื้นถึงส่วนบนของตาข่ายที่กึ่งกลางสนามมีความสูง 1.52 เมตร ( ผู้หญิง 1.42 เมตร ) และวัดตรงเสาทั้งสองด้านมีความสูง  1.55 เมตร ( ผู้หญิง  1.45 เมตร )
ข้อที่ 4 ลูกตะกร้อ ( THE SEPAKTRAKRAW BALL’ )
ลูกตะกร้อต้องมีลักษณะเป็นทรงกลม ทำด้วยหวายหรือใยสงเคราะห์ชั้นเดียวมี 12 รู กับ 20 จุดตัดไขว้ หากทำด้วยหวายต้องมีจำนวน 9 – 11 เส้น ขนดของเส้นรอบวงต้องไม่น้อยกว่า 42 เซนติเมตร และไม่มากกว่า 44 เซนติเมตร ( ผู้หญิง 43 – 45 เซนติเมตร) น้ำหนักก่อนใช้แข่งขันต้องไม่น้อยกว่า 170 กรัม และไม่เกินกว่า 180 กรัม ( ผู้หญิง 150 – 160 กรัม )
ข้อที่ 5 ผู้เล่น ( THE PLAYERS )
5.1 การแข่งขันมี 2 ทีม ประกอบด้วยผู้เล่นฝ่ายละ 3 คน
5.2 ผู้เล่นหนึ่งในสามคนจะเป็นผู้ เสิร์ฟลูกและอยู่ด้านหลังเรียกว่า “ผู้เสิร์ฟ” “Server ( Tekong )”
5.3 ผู้เล่นอีกสองคนอยู่ด้านหน้า โดยคนหนึ่งจะอยู่ด้านซ้ายเรียกว่า “หน้าซ้าย” ( left inside ) และคนที่อยู่ด้านขวาเรียกว่า “หน้าขวา” ( night inside )

ข้อที่ 6. เครื่องแต่งกายของผู้เล่น ( PLAYER ATTIRE)
6.1  สำหรับผู้ชายต้องสวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ( สำหรับผู้หญิงให้สวมเสื้อยืดมีแขนและกางเกงขาสั้นระดับเข่า ) และรองเท้ากีฬาพื้นยาง ( ถุงเท้าด้วย ) ห้ามผู้เล่นสวมสิ่งอื่นใดที่จะเป็นอันตรายแก่ฝ่ายตรงข้ามในระหว่างการแข่งขัน กรณีที่อากาศหนาวอนุญาตให้ผู้เล่นสวมชุดวอร์มแข่งขันได้
6.2 ส่วนต่างๆของเครื่องแต่งกายของผู้เล่นถือเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายและชายเสื้อจะต้องอยู่ในกางเกงตลอดเวลาการแข่งขัน
6.3 สิ่งใดก็ตามที่จะช่วยเร่งความเร็วของลูกตะกร้อ หรือช่วยในการเคลื่อนที่ของผู้เล่นไม่อนุญาตให้ใช้
6.4 หัวหน้าทีม ( captian) จะต้องใส่ปลอกแขน ที่แขนเสื้อด้านซ้าย
6.5 เสื้อของผู้เล่นทุกคนจะต้องติดหมายเลขด้านหลังให้เห็นได้ชัดเจนให้แต่ละทีมใช้หมายเลข 1 – 15 เท่านั้น มีขนาดความสูงไม่น้อยกว่า 19 เซนติเมตร ซึ่งกำหนดให้ผู้เล่นจะต้องมีเพียงหมายเลขเดียวตลอดการแข่งขัน ( tournament )

ข้อที่ 7. การเปลี่ยนตัวผู้เล่น ( SUBSTITUTION )
7.1ผู้เล่นคนใดที่ได้ลงแข่งขันในแต่ละทีม หรือได้เปลี่ยนตัวไปแล้วจะไม่อนุญาตให้ลงแข่งในทีม ( regu )อื่นๆอีก สำหรับการแข่งขันประเภททีมชุด ( team ) เฉพาะครั้งนั้นๆ
7.2 การเปลี่ยนตัวผู้เล่นจะกระทำเวลาใดก็ได้ โดยผู้จัดการทีมยื่นขอต่อกรรมการผู้ชี้ขาด เมื่อลูกตะกร้อไม่ได้อยู่ในการเล่น ( ลูกตาย )
7.3 แต่ละทีม ( regu ) มีผู้เล่นสำรองไม่เกิน 2 คน แต่อนุญาต ให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ 1 คนเท่านั้น
7.4 ผู้เล่นคนใดถูกผู้ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน จะได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ ถ้าหากว่ายังมิได้มีการเปลี่ยนตัว
7.5 ทีมใด ( regu ) มีผู้เล่นน้อยกว่า 3 คน จะไม่อนุญาตให้ทำการแข่งขันและปรับทีมนั้นเป็นแพ้การแข่งขัน
ข้อที่ 8 เจ้าหน้าที่ ( OFFICIALS )
กีฬาเซปักตะกร้อ มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการแข่งขันดังต่อไปนี้
8.1 กรรมการผู้ชี้ขาด 1 คน
8.2 กรรมการผู้ตัดสิน 2 คน ( ผู้ตัดสิน 1 คนผู้ช่วยผู้ตัดสิน 1 คน )
8.3 กรรมการผู้กำกับเส้น 6 คน ( กำกับเส้นข้าง 4 คน และกำกับเส้นหลัง 2 คน
ข้อที่ 9. การเสี่ยงและการอบอุ่นร่างกาย ( THE COIN TOSS AND WARM UP )
ก่อนเริ่มการแข่งขันกรรมการผู้ตัดสินจะทำการเสี่ยง ผู้ชนะการเสี่ยงมีสิทธิ์เลือกลูกส่ง หรือเลือกแดนก็ได้ ทีมที่ชนะการเสี่ยงจะเป็นทีมที่อบอุ่นร่างกายในสนามก่อนเป็นเวลา 2 นาที แล้วตามด้วยทีมที่เหลืออยู่ด้วย
ตะกร้อที่ใช้ในการแข่งขัน และให้มีบุคคลอยู่ในสนามได้ 5 คนเท่านั้น ( ผู้เล่นตัวจริง 3 คน และหรือ ผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอนและผู้เล่นสำรอง )
 ข้อที่ 10. ตำแหน่งของผู้เล่นระหว่างการส่งลูก ( OSITION OF PLAYERS DURING SERVICE )
10.1 เมื่อเริ่มผู้เล่นทั้งสองทีม ( both regus ) ต้องยืนอยู่ในที่ที่กำหนไว้ในแดนของตน ลักษณะที่เตรียมพร้อม
10.2   ผู้เสิร์ฟ ( tekong ) ต้องวางเท้าหลักอยู่ในวงกลมเสิร์ฟ
10.3   ผู้เล่นด้านหน้าทั้งสองคนของฝ่ายเสิร์ฟจะต้องยืนอยู่ในเสี้ยววงกลมตนเอง
10.4   ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะยืนอยู่ที่ใดก็ได้ในแดนของตน
 ข้อที่ 11. การเริ่มเล่นและการส่งลูก ( THE START OF PLAY AND SERVICE )
11.1                       การเริ่มเล่นให้ฝ่ายที่ได้เสิร์ฟ เป็นฝ่ายส่งลูกก่อนในเซตแรก ทีมที่ชนะในเซตแรกจะได้รับสิทธิ์เลือกการเสิร์ฟในเซตที่ 2
11.2                       เมื่อกรรมการผู้ตัดสินขานคะแนนแล้ว ถือเป็นการเริ่มเล่น ผู้โยนจะต้องโยนลูกตะกร้อออกไปให้ผู้เสิร์ฟลูก หากผู้โยนโยนลูกตะกร้อออกไปก่อนกรรมการผู้ตัดสินขานคะแนนต้องโยนใหม่ และต้องเตือนผู้โยนนั้น
11.3                       ระหว่างการเสิร์ฟ ในทันทีที่ผู้เสิร์ฟได้เตะลูกตะกร้อแล้วผู้เล่นทุกคนสามารถเคลื่อนที่ในแดนของตนได้
11.4                       การเสิร์ฟที่ถูกต้อง เมื่อลูกตะกร้อได้ข้ามไปยังฝ่ายตรงข้ามระหว่างแถบตาข่าย ไม่ว่าจะสัมผัสตาข่ายหรือไม่ก็ตาม ต้องให้ลูกตกสู่พื้นอยู่ในขอบเขตของสนาม
ข้อที่ 12. การผิดกติกา ( FAULTS )
12.1 สำหรับผู้เล่นฝ่ายเสิร์ฟ ระหว่างการเสิร์ฟ
12.1.1 ผู้เล่นหน้า คนที่ทำหน้าที่โยนลูกกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งโดยไม่ได้โยนให้ผู้เสิร์ฟเตะลูกส่ง เช่น โยนลูกเล่น เคาะลูกเล่น โยนลูกให้ผู้เล่นหน้าอีกคน ฯลฯ หลังจากผู้ตัดสินขานคะแนนแล้ว
12.1.2 ผู้เล่นหน้ายกเท้าหรือเหยียบเส้น หรือถูกตาข่าย หรือส่วนของร่างกายล้ำเข้าไปในแดนฝ่ายตรงข้ามขณะที่โยนลูก
12.1.3 ผู้เสิร์ฟ กระโดดเสิร์ฟ
12.1.4 ผู้เสิร์ฟไม่ได้เตะลูกที่โยน
12.1.5 ลูกตะกร้อถูกผู้เล่นฝ่ายเดียวกันก่อนข้ามตาข่าย
12.1.6 ลูกตะกร้อข้ามตาข่ายแต่ออกนอกเขตสนาม
12.1.7 ลูกตะกร้อไม่ข้ามตาข่าย
12.2 สำหรับผู้เล่นฝ่ายรับ ระหว่างการเสิร์ฟ เจตนากระทำในลักษณะที่ทำให้ฝ่ายเสิร์ฟลูกเสียสมาธิ หรือส่งเสียงรบกวน หรือร้องตะโกน
12.3 สำหรับผู้เล่นทั้งสองฝ่าย ระหว่างการแข่งขัน
12.3.1 ถูกลูกตะกร้อในแดนฝ่ายตรงข้าม
12.3.2 ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายล้ำเข้าไปในแดนของฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นด้านบนหรือด้านล่างของตาข่าย ยกเว้นการติดตามล้ำตาข่ายหรืการลงสู่พื้นภายหลังการเล่นลูก ( follow through )
12.3.3  เล่นลูกเกิน 3 ครั้ง
12.3.4 ลูกถูกมือหรือแขน
12.3.5 หยุดลูก หรือยึดลูกไว้ใต้แขน ระหว่างขาหรือลำตัว
12.3.6 ส่วนหนึ่งของร่างกายหรืออุปกรณ์ของเครื่องแต่งกายผู้เล่น ถูกตาข่ายหรือถูกเสาหรือถูกเก้าอี้กรรมการผู้ตัดสิน หรือตกลงในพื้นที่ฝ่ายตรงข้าม
12.3.7 ลูกตะกร้อถูกเพดาน หลังคา ผนัง หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ
ข้อที่ 13. การนับคะแนน ( SCORING SYSTEM )
13.1 ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสิร์ฟหรือฝ่ายรับก็ตาม เมื่อมีการทำผิดกติกาเกิดขึ้น ( fault ) ฝ่ายตรงข้ามจะได้คะแนนทันทีและจะเป็นฝ่ายเสิร์ฟต่อไป
13.2 ทีมที่ชนะการแข่งขันในแต่ละเซตจะต้องทำคะแนนได้ 21 คะแนน แต่ถ้าคะแนนเท่ากันที่ 20 : 20 ผู้ชนะจะต้องมีคะแนนต่างกัน 2 คะแนนและคะแนนสูงสุดไม่เกิน 25 คะแนน เมื่อคะแนน 20 เท่า ผู้ตัดสินต้องขานว่า “ดิวส์คู่”  ไม่เกิน 25 แต้ม
13.3 การแข่งขันจะต้องชนะกัน 2 เซต โดยมีการพักระหว่างเซต 2 นาที
13.4 ถ้าแต่ละทีมชนะกันทีมละ 1 เซต จะต้องทำการแข่งในเซตที่ 3 ซึ่งเรียกว่า “ไทเบรค” โดยแข่งขันกัน 15 คะแนน แต่ถ้าคะแนนเท่ากันที่ 14 : 14 ผู้ชนะจะต้องมีคะแนนต่างกัน 2 คะแนน และคะแนนสูงสุดไม่เกิน 17 คะแนน เมื่อคะแนน 14 เท่า ผู้ตัดสินต้องขานว่า “ดิวส์คู่” ไม่เกิน 17 แต้ม
13.5 ก่อนเริ่มการแข่งขันในเซตที่ 3 ผู้ตัดสินต้องทำการเสี่ยง ผู้ชนะในการเสี่ยงจะได้สิทธิ์เลือกการเสิร์ฟและให้มีการเปลี่ยนแดนเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำคะแนนได้ 8 คะแนน
ข้อที่ 14. การขอเวลานอก ( TIME OUT )
แต่ละทีม ( regu ) สามารถขอเวลานอกได้เซตละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 1 นาที โดยให้ผู้จัดการทีมหรือผู้ฝึกสอนขอเวลานอกต่อกรรมการผู้ตัดสินเมื่อลูกตระก้อไม่ได้อยู่ในการเล่น และมีบุคคลในระหว่างการขอเวลานอกได้ 5 คน ที่บริเวณท้ายสนามของแต่ละด้าน
ข้อที่ 15. อุบัติเหตุและการหยุดการแข่งขัน ( TEMPORARY SUSPENSION OF PLAY )
15.1 กรรมการผู้ตัดสินสามารถหยุดการแข่งขันได้ไม่เกิน 5 นาที เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางหรือรบกวนการแข่งขัน หรือผู้เล่นเกิดบาดเจ็บและต้องได้รับการดูแลทันที
15.2 การหยุดพักสำหรับผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บถือเป็นเวลานอก สำหรับการบาดเจ็บอนุญาตให้พักการแข่งขันได้ไม่เกิน 5 นาที ภายหลังจากหยุดครบ 5 นาทีแล้ว ผู้เล่นคนนั้นไม่สามารถทำการแข่งขันต่อได้ จะต้องทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นนั้นออก ถ้าเกิดกรณีที่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นไปแล้ว ให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ และให้ฝ่ายตรงข้ามชนะการแข่งขันในครั้งนั้น
15.3 ในระหว่างหยุดพักการแข่งขัน ผู้เล่นทุกคนต้องอยู่ในสนามและไม่อนุญาตให้ดื่มน้ำหรือได้รับการช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น
 ข้อที่ 16. วินัยและมารยาทในการแข่งขัน ( DISCIPLINE )
16.1 ผู้เล่นทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกติกาการแข่งขัน
16.2 ในระหว่างการแข่งขันจะอนุญาตให้หัวหน้าทีมเท่านั้นเป็นผู้ติดต่อหรือซักถามต่อกรรมการผู้ตัดสิน ( ในลักษณะสุขภาพ )

ข้อที่ 17. ความผิดและบทลงโทษ ( PENALTY )
17.1 ความผิดที่ถูกตักเตือน
ผู้เล่นที่กระทำความผิดจะต้องถูกตักเตือนและได้รับบัตรเหลืองใน 6 กรณีดังต่อไปนี้
17.1.1 ปฏิบัติตนไม่มีน้ำใจนักกีฬา
17.1.2 แสดงกิริยาและวาจาไม่สุภาพ
17.1.3 ไม่ปฏิบัติตามกฎ กติกาการแข่งขัน
17.1.4 ถ่วงเวลาการแข่งขัน
17.1.5 เข้าหรือออกสนาม โดยไม่ได้อนุญาตจากผู้ตัดสิน
17.1.6 เจตนาเดินออกไปจากสนาม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสิน
17.2 ความผิดที่ถูกให้ออกจากการแข่งขัน
ผู้เล่นที่กระทำความผิดถูกให้ออกจากการแข่งขันและได้รับบัตรแดงมี 5 กรณี ดังต่อไปนี้
17.2.1 กระทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง
17.2.2 ประพฤติร้ายแรงโดยเจตนาทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บ
17.2.3 ถ่มน้ำลายใส่ฝ่ายตรงข้ามหรือผู้อื่น
17.2.4 ทำความผิดอย่างร้ายแรงโดยสบประมาทหรือดูถูกและหรือแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมไปยังฝ่ายตรงข้าม
17.2.5 ได้รับการเตือนด้วยบัตรเหลืองเป็นครั้งที่  2 ในการแข่งขันครั้งนั้น
17.3    ผู้เล่นที่กระทำผิดถูกเตือนหรือให้ออกจากการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นความผิดทั้งในหรือนอกสนามแข่งขัน ผู้เล่นฝ่ายเดียวกัน กรรมการผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน หรือบุคคลอื่นๆให้พิจารณาลงโทษตามความผิดที่ได้กระทำขึ้น
ข้อที่ 18. ความผิดขอเจ้าหน้าที่ทีม ( MISCONDCT OF OFFICIALS )
ในระหว่างการแข่งขันหากทีมหรือเจ้าหน้าที่ของทีมคนหนึ่งคนใดกระทำความผิดเกี่ยวกับวินัยและมารยาท ทั้งในสนามและนอกสนามแข่งขัน เจ้าหน้าที่ทีมหรือทีมนั้นๆจะต้องถูกพิจารณาลงโทษทางวินัยและมารยาท
ข้อที่ 19. บททั่วไป ( GENERAL )
ในการแข่งขันหากมีปัญหาหรือเรื่องราวใดๆก็ตามที่เกิดขึ้นในทุกกรณี ซึ่งนอกเหนือจากที่มิได้ระบุไว้ในกกติกาข้อใดๆของการแข่งขัน ให้ถือคำตัดสินของกรรมการผู้ชี้ขาดเป็นที่สิ้นสุด

วีดีโอการแข่งตะกร้อ